Date: February 25, 2016
Author: Grip Thailand
นิตโตะซัง ขอบอกว่า “น็อตล้อ” เป็นชิ้นส่วนที่มีอายุยืนยาวในระดับที่แทบจะบอกได้ว่าไม่มีจุดสิ้นสุดครับ ถ้าถูกขันด้วยแรงบิดที่ถูกต้อง ถึงไม่ถูกต้อง แต่ไม่เกินไปมากมาย ก็จะยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นได้อยู่ดี บางทีเห็นต่อด้ามกันยาวเหยียด จนสามารถขันจนแรงบิดเกินค่าที่ผู้ผลิตรถเขากำหนดได้หลายเท่าตัว แม้ผู้ผลิตเครื่องมือเขาเลือกความยาวของด้ามขัน ให้เพียงพอกับแรงบิดที่ต้องใช้ โดยใช้แรงดึงหรือดันด้วยมือ และแขนของผู้ขันเท่านั้น ก็ยังจะดึงดันต่อด้ามกันให้ยาวท่วมหัว
ช่างซ่อมรถบางคนใช้วิธีขย่ม ปล่อยน้ำหนักตัวเกือบทั้งตัว กดลงไปที่ปลายด้าม บางรายก็ถึงขั้นใช้เท้าเหยียบแล้วขย่มทั้งตัว ถึงจะถูกทารุณอย่างสุดโหดขนาดนี้ เกลียวก็ยังไม่ชำรุดครับ และสลักเกลียวก็ไม่ขาดด้วย เพราะคุณภาพของเหล็กยุคนี้สูงมาก ประกอบกับในช่วงท้ายที่แรงบิดสูงมาก จากการขย่มแรงอัดที่หน้าสัมผัสของน็อต หรือสลักเกลียวตัวผู้ (BOLT) กับเบ้ารอบรูของกระทะล้อ ก็จะมีค่ามหาศาล หลายตัน (1,000 กก.) ต่อโบลท์แต่และตัว
แต่แม้จะไม่ขาดคามือตอนขัน แต่อาจจะขาดทีหลังได้ครับ เพราะตอนใช้งานกระทะล้อจะรับความร้อนที่ถูกถ่ายเทมาทางเนื้อโลหะจากจานเบรก และถ้าเป็นล้อแม็ก ทำจากอลูมิเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวเมื่อถูกความร้อนสูงกว่าเหล็กมากพอสมควร เมื่ออลูมิเนียมที่เป็นส่วนของกระทะล้อพองตัวมากกว่าการยืดของเหล็ก ส่วนที่เป็นสลักเกลียว แรงอัดนี้จะเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นอย่ายอมให้ช่าง (เถอะ) ขันน๊อตล้อรถเราแรงเกินไปเด็ดขาดครับ